กฎหมายคริปโต

กฎหมายคริปโตในธุรกิจ — เข้าใจกฎหมายคริปโตเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์ในโลกธุรกิจยุคใหม่

กฎหมายคริปโตในธุรกิจ
Written by admin

ในยุคที่โลกหมุนเร็วและเทคโนโลยีทางการเงินก้าวกระโดด “คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)” กลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ของการลงทุน การชำระเงิน หรือแม้แต่การระดมทุนของธุรกิจ แต่เมื่อพูดถึงการนำคริปโตมาใช้จริงในภาคธุรกิจ สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องเข้าใจคือ “กฎหมายคริปโตในธุรกิจ”

กฎหมายเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้การใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างปลอดภัย โปร่งใส และไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ

กฎหมายคริปโตในธุรกิจคืออะไร?

กฎหมายคริปโตในธุรกิจคืออะไร

กฎหมายคริปโตในธุรกิจ หมายถึง กฎระเบียบที่ควบคุมการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) ทั้งในรูปแบบของ

  • คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เช่น Bitcoin, Ethereum
  • และโทเคนดิจิทัล (Digital Token) เช่น Utility Token, Investment Token

โดยเฉพาะในประเทศไทย หน่วยงานที่ดูแลด้านนี้อย่างใกล้ชิดคือ

  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
  • กรมสรรพากร

ทั้งสามหน่วยงานนี้จะร่วมกันกำหนดว่า “ธุรกิจสามารถทำอะไรได้บ้างกับคริปโต” และ “อะไรที่ยังไม่อนุญาต” เพื่อให้การดำเนินธุรกิจอยู่ในกรอบกฎหมาย

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในประเทศไทย

1. พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561

กฎหมายหลักที่ใช้ควบคุมตลาดคริปโตในไทย โดยมีเนื้อหาสำคัญคือ

  • ผู้ประกอบการที่ต้องการเปิด “ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange)” หรือเป็น “นายหน้า” ต้องขออนุญาตจาก ก.ล.ต.
  • การระดมทุนด้วยเหรียญหรือโทเคน (ICO / ITO) ต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจาก ก.ล.ต.
  • นักลงทุนได้รับความคุ้มครอง และธุรกรรมต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้

2. ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

  • ธุรกิจสามารถใช้คริปโตเพื่อการชำระเงินได้ แต่ต้องไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพระบบการเงิน
  • การใช้คริปโตเพื่อชำระสินค้าหรือบริการโดยตรง (เช่น โอน Bitcoin แลกกาแฟ) ยังไม่ถูกส่งเสริม
  • แต่การใช้ “ผู้ให้บริการชำระเงินที่แปลงคริปโตเป็นเงินบาทอัตโนมัติ” ถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

3. กฎหมายภาษีคริปโต

  • รายได้จากการขาย แลกเปลี่ยน หรือขุดคริปโต ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% จากกำไรของนักลงทุนบางประเภท
  • ธุรกิจที่รับชำระเงินด้วยคริปโตต้องบันทึกบัญชีอย่างถูกต้องตามหลักการบัญชี

การใช้คริปโตในธุรกิจทำได้อย่างไรบ้าง?

แม้กฎหมายคริปโตในธุรกิจจะยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบ

1. การรับชำระเงินด้วยคริปโต (Crypto Payment)

ธุรกิจสามารถใช้บริการของผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น Bitkub Pay, Binance Pay หรือ Alchemy Pay ที่จะ แปลงค่าคริปโตเป็นเงินบาททันที เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของราคา

ตัวอย่างเช่น
ร้านกาแฟสามารถรับชำระเงินด้วย Bitcoin ผ่านแอป Bitkub Pay และระบบจะแปลงเป็นเงินบาทเข้าสู่บัญชีร้านทันที

ข้อดี: สะดวก รวดเร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต
ข้อควรระวัง: ต้องเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.

2. การระดมทุนด้วยโทเคน (Tokenization / ICO / ITO

ธุรกิจสามารถออก “เหรียญ” หรือ “โทเคน” ของตัวเอง เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนแทนการขายหุ้นแบบดั้งเดิม
แต่การออกเหรียญนี้ต้องผ่านการอนุมัติจาก ก.ล.ต. เพื่อป้องกันการหลอกลวง

ตัวอย่าง: โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ออก “โทเคนการลงทุน (Investment Token)” ให้ผู้ถือได้รับผลตอบแทนจากค่าเช่า

ข้อดี: เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุน
ข้อควรระวัง: ต้องมีความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน

3. การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในธุรกิจ (Blockchain for Business)

แม้จะไม่เกี่ยวกับการใช้เหรียญโดยตรง แต่ธุรกิจสามารถใช้ “บล็อกเชน” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น

  • ติดตามการขนส่งสินค้า (Supply Chain Tracking)
  • ป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร
  • บันทึกข้อมูลธุรกรรมอย่างปลอดภัย

ประโยชน์ของการใช้คริปโตในธุรกิจ

  1. เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการทำธุรกรรม
    การชำระเงินด้วยคริปโตสามารถทำได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่มีวันหยุดธนาคาร
  2. ลดต้นทุนทางการเงิน
    ค่าธรรมเนียมถูกกว่าการโอนเงินข้ามประเทศหรือบัตรเครดิต
  3. เปิดตลาดใหม่ระดับโลก
    ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าต่างประเทศที่ใช้คริปโตได้โดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคาร
  4. เพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้
    ข้อมูลบนบล็อกเชนไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ ทำให้ลดโอกาสทุจริต
  5. สร้างภาพลักษณ์ทันสมัย
    การยอมรับคริปโตช่วยให้แบรนด์ดูทันสมัยและเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรระวัง

ราคาเหรียญใหม่มาแรง: โอกาส ความเสี่ยง และสิ่งที่นักลงทุนควรรู้

ราคาเหรียญดิจิทัลไทย: เจาะลึกทุกเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนลงทุน

ราคาเหรียญคริปโตโลก: เข้าใจให้ลึกก่อนตัดสินใจลงทุน

ราคาเหรียญเสมือนจริง คู่มือฉบับละเอียดสำหรับคนอยากเข้าใจตลาดคริปโต

ข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรระวัง

ข้อเสียและความเสี่ยงที่ควรระวัง
  1. ความผันผวนของราคา
    มูลค่าคริปโตเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว อาจส่งผลต่อรายได้ของธุรกิจ
  2. ความซับซ้อนทางกฎหมาย
    กฎหมายคริปโตในธุรกิจยังปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
  3. ความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กหรือโจรกรรมดิจิทัล
    หากระบบจัดเก็บไม่ปลอดภัย อาจสูญเสียสินทรัพย์ได้
  4. ภาระด้านภาษีและบัญชี
    การคำนวณภาษีจากคริปโตอาจซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อต้องคำนวณกำไร-ขาดทุนจากหลายเหรียญ
  5. การยอมรับของตลาดและลูกค้า
    แม้จะเริ่มแพร่หลาย แต่ยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ไม่เข้าใจหรือไม่มั่นใจในคริปโต

สรุป: เข้าใจกฎหมายคริปโตในธุรกิจ เพื่อใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด

การนำคริปโตมาใช้ในธุรกิจไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัว แต่ต้อง “เข้าใจ” และ “ใช้ให้ถูกทาง”
กฎหมายคริปโตในธุรกิจ ไม่ได้มีไว้เพื่อปิดกั้นนวัตกรรม แต่มีไว้เพื่อ “คุ้มครองทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค”

หากธุรกิจศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ก็สามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างปลอดภัย
และในอนาคต เมื่อกฎหมายพัฒนาไปพร้อมเทคโนโลยีมากขึ้น โลกของธุรกิจดิจิทัลและคริปโตจะยิ่งเติบโตอย่างยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อย 

1. กฎหมายคริปโตในธุรกิจคืออะไร?

กฎหมายคริปโตในธุรกิจ คือ กฎระเบียบที่ภาครัฐกำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการใช้ การซื้อขาย การลงทุน และการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) และโทเคนดิจิทัล (Digital Token) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกรรมเกิดขึ้นอย่างปลอดภัย โปร่งใส และไม่กระทบต่อระบบการเงินของประเทศ

2. ธุรกิจในประเทศไทยสามารถรับชำระเงินด้วยคริปโตได้หรือไม่?

สามารถทำได้ แต่ต้องผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เช่น Bitkub Pay หรือ Binance Pay ซึ่งระบบจะทำการแปลงคริปโตเป็นเงินบาททันที เพื่อป้องกันความผันผวนของราคา และให้เป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย

3. การใช้คริปโตในธุรกิจต้องเสียภาษีหรือไม่?

ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย โดยรายได้จากการขาย แลกเปลี่ยน หรือขุดคริปโตถือเป็นรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และในบางกรณีอาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ด้วย ทั้งนี้ ธุรกิจควรจัดทำบัญชีและรายงานธุรกรรมอย่างถูกต้อง

4. ธุรกิจสามารถออกเหรียญหรือโทเคนของตนเองได้ไหม?

สามารถทำได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า ICO (Initial Coin Offering) หรือ ITO (Initial Token Offering) แต่ต้องยื่นขออนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. ก่อน และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการหลอกลวงนักลงทุนและรักษาความโปร่งใ

5. การใช้คริปโตเป็นเงินชำระค่าสินค้าหรือบริการโดยตรงถูกกฎหมายหรือไม่?

ปัจจุบัน การใช้คริปโตเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการโดยตรง “ยังไม่ถูกส่งเสริม” เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่ามีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงิน แต่การใช้ผู้ให้บริการที่แปลงคริปโตเป็นเงินบาทก่อนการชำระ ถือเป็นวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย

About the author

admin

Leave a Comment