วิธีเทรด

วิธีเทรดคริปโตแบบรายวัน (Day Trading Crypto): คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่

วิธีเทรดคริปโตแบบรายวัน
Written by admin

ในยุคที่คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) กลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก หลายคนเริ่มหันมาเทรดเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวัน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การเทรดคริปโตแบบรายวัน (Crypto Day Trading)

บทความนี้จะอธิบายทุกแง่มุมของการเทรดรายวัน ตั้งแต่พื้นฐาน วิธีเริ่มต้น กลยุทธ์ ไปจนถึงข้อดีข้อเสีย เพื่อให้คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้และสามารถตัดสินใจได้ว่าการเทรดแบบนี้เหมาะกับคุณหรือไม่

การเทรดคริปโตแบบรายวันคืออะไร

การเทรดคริปโตแบบรายวันคืออะไร

การเทรดคริปโตแบบรายวัน (Day Trading) หมายถึงการซื้อและขายเหรียญคริปโตภายในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจาก “ความผันผวนของราคาในระยะสั้น”

ตัวอย่างเช่น คุณซื้อ Bitcoin (BTC) ตอนเช้าในราคา 2,000,000 บาท แล้วขายตอนบ่ายที่ราคา 2,020,000 บาท ได้กำไร 20,000 บาทในวันเดียว นี่คือตัวอย่างของการเทรดรายวัน

นักเทรดรายวันจะไม่ถือเหรียญข้ามวัน เพราะราคาคริปโตสามารถเปลี่ยนแปลงแรงในช่วงกลางคืน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

ทำไมหลายคนถึงเลือกเทรดรายวัน

เพราะตลาดคริปโตเปิดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่มีวันหยุดเหมือนตลาดหุ้น คุณสามารถเข้าเทรดได้ทุกเวลา
อีกทั้งราคาคริปโตมีความผันผวนสูง ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถทำกำไรได้หลายรอบในวันเดียว

แต่ในขณะเดียวกัน ความผันผวนนี้ก็เป็นความเสี่ยง เพราะราคาสามารถเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีแผนหรือวินัยก็อาจขาดทุนได้ง่าย

ขั้นตอนพื้นฐานของวิธีเทรดคริปโตแบบรายวัน

1. เตรียมเครื่องมือให้พร้อม

  • สมัครบัญชีกับเว็บเทรดที่เชื่อถือได้ เช่น Binance, Bitkub, OKX หรือ Bybit
  • ศึกษาการใช้กราฟเทคนิค (TradingView) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคา
  • ใช้เครื่องมือเสริม เช่น RSI, MACD, EMA เพื่อช่วยในการตัดสินใจเข้าออกออเดอร์

2. เลือกเหรียญที่เหมาะสำหรับเทรดรายวัน

เลือกเหรียญที่มีสภาพคล่องสูง (High Liquidity) และมีปริมาณการเทรดมาก เช่น

  • Bitcoin (BTC)
  • Ethereum (ETH)
  • Binance Coin (BNB)
  • Solana (SOL)
  • XRP

เหรียญเหล่านี้มีความเคลื่อนไหวของราคาชัดเจนและเทรดง่ายกว่าเหรียญเล็ก

3. วางแผนกลยุทธ์การเทรด

ก่อนเริ่มเทรด ควรกำหนดแผนที่ชัดเจน เช่น

  • จะเข้าเมื่อไหร่ เช่น เข้าซื้อเมื่อราคาแตะเส้น EMA50 หรือ RSI ต่ำกว่า 30
  • จะออกเมื่อไหร่ ตั้ง Take Profit (เช่น +2%) และ Stop Loss (เช่น -1%)
  • จะเทรดกี่ครั้งต่อวัน เพื่อควบคุมอารมณ์และลดความเสี่ยง

4. การบริหารเงินทุน (Risk Management)

เทรดเดอร์มืออาชีพจะไม่ลงเงินเกิน 2–5% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันการขาดทุนหนัก
ตัวอย่างเช่น หากพอร์ตมี 50,000 บาท คุณควรใช้เงินเทรดต่อครั้งไม่เกิน 2,500 บาท

5. บันทึกและทบทวนทุกการเทรด

จดบันทึกทุกครั้งที่เทรด เช่น

  • เข้าเทรดเมื่อไหร่
  • เหตุผลในการเข้าเทรดคืออะไร
  • ผลลัพธ์เป็นอย่างไร

สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเห็นรูปแบบความผิดพลาดและพัฒนากลยุทธ์ของตัวเองได้เร็วขึ้น

กลยุทธ์ยอดนิยมในการเทรดคริปโตแบบรายวัน

1. Scalping

เทรดหลายครั้งต่อวันเพื่อเก็บกำไรเล็ก ๆ ต่อรอบ เน้นความเร็วและการตัดสินใจเฉียบพลัน เหมาะกับผู้ที่มีเวลาเฝ้ากราฟทั้งวัน

2. Breakout Trading

รอให้ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับสำคัญ แล้วเข้าเทรดตามทิศทางของราคา ใช้ Volume Indicator เพื่อยืนยันสัญญาณ

3. Momentum Trading

เข้าเทรดตามทิศทางของแรงซื้อหรือแรงขาย ใช้ RSI และ MACD ช่วยดูแรงส่งของราคา

4. Reversal Trading

จับจังหวะกลับตัวของราคา เช่น เมื่อ RSI เกิน 70 และเริ่มอ่อนแรง เหมาะกับนักเทรดที่มีประสบการณ์

คุณอาจจะสนใจอ่านโพสต์เหล่านี้เพิ่มเติม:

ข่าวคริปโตต่างประเทศ อัปเดตโลกการเงินดิจิทัลที่หมุนเร็วที่สุดในโลก

ข่าวเหรียญคริปโตใหม่: สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ ก่อนตามกระแส

ข่าวตลาดคริปโตไทย: อัปเดตล่าสุด แนวโน้ม และข้อคิดที่ควรรู้

ข่าวคริปโตบล็อกเชน: โลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงทุกวินาที

เคล็ดลับสำคัญในการเทรดรายวันให้สำเร็จ

เคล็ดลับสำคัญในการเทรดรายวันให้สำเร็จ
  1. อย่าลงเงินทั้งหมดในออเดอร์เดียว
  2. ตั้ง Stop Loss ทุกครั้งเพื่อจำกัดความเสียหาย
  3. อย่าเทรดตามอารมณ์ตลาด
  4. ติดตามข่าวสาร เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หรือข่าวจากโปรเจกต์ใหญ่
  5. ฝึกฝนและศึกษาตลาดอย่างสม่ำเสมอ

ข้อดีของการเทรดคริปโตแบบรายวัน

  1. ทำกำไรได้รวดเร็ว
    หากเข้าใจตลาดดี อาจทำกำไรได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
  2. ไม่ต้องถือเหรียญข้ามวัน
    ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนกลางคืน
  3. เหมาะกับตลาดผันผวน
    ราคาขึ้นลงตลอดเวลา ทำให้มีโอกาสเข้าเทรดหลายรอบ
  4. พัฒนาได้รวดเร็ว
    ได้ฝึกวิเคราะห์และตัดสินใจบ่อย ทำให้เรียนรู้เร็วขึ้น

ข้อเสียของการเทรดคริปโตแบบรายวัน

  1. เครียดและใช้เวลาเยอะ
    ต้องเฝ้ากราฟแทบทั้งวันและตัดสินใจเร็ว
  2. ความเสี่ยงสูง
    หากไม่มีแผนหรือใช้ Leverage มากเกินไป อาจขาดทุนอย่างรวดเร็ว
  3. ค่าธรรมเนียมสะสมเยอะ
    การเทรดหลายครั้งต่อวันอาจทำให้ค่าธรรมเนียมสะสมจนกระทบกำไร
  4. ต้องใช้ความรู้และวินัยสูง
    หากไม่มีวินัยหรือเทรดตามอารมณ์ โอกาสล้างพอร์ตมีสูงมาก

การเทรดรายวันเหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่

  • มีเวลาเฝ้ากราฟ
  • สนใจการวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • ชอบความท้าทายและควบคุมอารมณ์ได้ดี
  • พร้อมรับความเสี่ยงระยะสั้น

แต่หากคุณไม่มีเวลาหรือไม่ชอบความผันผวนมาก การถือเหรียญระยะยาว (HODL) หรือการเทรดแบบ Swing Trade อาจเหมาะกว่า

สรุป: วิธีเทรดคริปโตแบบรายวันต้องอาศัยทั้งความรู้ วินัย และการควบคุมอารมณ์

การเทรดคริปโตแบบรายวันไม่ได้มีสูตรตายตัว แต่ทุกคนสามารถฝึกให้เก่งได้ หากมีความเข้าใจตลาด มีแผนการเทรดที่ชัดเจน และรู้จักควบคุมความเสี่ยง

จงจำไว้ว่า
“การเทรดไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นเรื่องของแผน การควบคุมอารมณ์ และการเรียนรู้จากทุกการเทรด”

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “วิธีเทรดคริปโตแบบรายวัน”

1. การเทรดคริปโตแบบรายวันเหมาะกับมือใหม่ไหม?

เหมาะในระดับหนึ่งครับ แต่ต้องเริ่มจากพื้นฐานก่อน เช่น การอ่านกราฟ การใช้เครื่องมือเทคนิค และการบริหารความเสี่ยง มือใหม่ควรเริ่มจากบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนใช้เงินจริง เพื่อฝึกเข้าใจระบบและลดความเสี่ยงในการขาดทุน

2. ใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเทรดรายวันได้?

ไม่มีจำนวนตายตัว แต่แนะนำให้เริ่มจากจำนวนที่คุณ “พร้อมจะเสียได้” โดยไม่กระทบการเงินในชีวิตประจำวัน เช่น 1,000–5,000 บาทก็สามารถเริ่มฝึกได้ หากคุณเทรดเก่งขึ้นค่อยเพิ่มทุนทีหลัง

3. ต้องเทรดวันละกี่ครั้งถึงจะดี?

ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละคน บางคนเทรดวันละ 2–3 ครั้งแบบเก็บรอบใหญ่ ขณะที่บางคนใช้วิธี Scalping เทรดหลายสิบรอบต่อวัน แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องมี “แผน” และ “เหตุผลในการเข้าออกทุกครั้ง” ไม่ควรเทรดโดยไม่มีระบบ

4. ควรใช้เลเวอเรจ (Leverage) ในการเทรดรายวันไหม?

สำหรับมือใหม่ ไม่แนะนำให้ใช้ ครับ เพราะแม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงขาดทุนหลายเท่าตัว หากตลาดสวนทาง คุณอาจโดนล้างพอร์ตในไม่กี่นาที ควรเริ่มจากการเทรดแบบ Spot ก่อน

5. ต้องเฝ้ากราฟทั้งวันหรือไม่?

ไม่จำเป็นครับ หากคุณมีแผนการเทรดที่ชัดเจน คุณสามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้า (Limit Order / Stop Order) ไว้ได้ แต่ถ้าคุณใช้กลยุทธ์ Scalping ที่ต้องดูกราฟระยะสั้น คุณอาจต้องเฝ้าตลอดช่วงเวลาที่เปิดออเดอร์

About the author

admin

Leave a Comment