วิธีเทรด

วิธีเทรดคริปโตในไทย: คู่มือสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มลงทุน

ปัจจุบัน คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) กลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในไทย หลายคนมองว่าเป็นโอกาสสร้างกำไร แต่หลายคนก็ยังสับสนว่าจะเริ่มต้นอย่างไรให้ถูกต้อง ปลอดภัย และคุ้มค่า

ในบทความนี้ ผมจะอธิบาย วิธีเทรดคริปโตในไทย อย่างละเอียด ตั้งแต่การเลือกกระดานเทรด การฝากเงิน การซื้อ–ขาย ไปจนถึงข้อดี–ข้อเสีย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

1. ทำความเข้าใจพื้นฐาน: คริปโตคืออะไร?

ทำความเข้าใจพื้นฐาน คริปโตคืออะไร

คริปโตคือ สกุลเงินดิจิทัล ที่ทำงานบนระบบบล็อกเชน ไม่มีธนาคารหรือรัฐบาลควบคุม ทำให้ทุกการโอนเงินมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอมแปลงได้ยาก

ตัวอย่างเหรียญที่คนรู้จักมากที่สุด ได้แก่:

  • Bitcoin (BTC) → เหรียญแรกของโลก มีสถานะเป็น “ทองคำดิจิทัล”
  • Ethereum (ETH) → แพลตฟอร์มที่สร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)
  • Stablecoin (USDT, USDC) → เหรียญที่มูลค่าผูกกับดอลลาร์ ใช้เก็บมูลค่าได้ค่อนข้างนิ่ง
  • Altcoin อื่น ๆ เช่น BNB, ADA, SOL

 ถ้าคุณเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้แล้ว การเรียนรู้ วิธีเทรดคริปโตในไทย จะง่ายขึ้นมาก

2. เลือกกระดานเทรดคริปโตที่ถูกกฎหมายในไทย

ในไทย กระดานเทรดต้องได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

ตัวเลือกยอดนิยม:

  • Bitkub → ใหญ่ที่สุดในไทย มีผู้ใช้งานเยอะ อินเตอร์เฟซง่าย
  • Satang Pro → กระดานไทยที่ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • Binance TH → ความร่วมมือระหว่าง Binance กับบริษัทไทย รองรับสภาพคล่องสูง
  • Upbit Thailand → กระดานจากเกาหลีที่เข้ามาทำตลาดในไทย

ขั้นตอนการสมัคร:

  1. สมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์หรือแอป
  2. ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์
  3. ทำ KYC (ยืนยันตัวตน) ด้วยบัตรประชาชนและเซลฟี่
  4. ผูกบัญชีธนาคารไทย

3. ฝากเงินเข้าสู่บัญชีกระดาน

เมื่อสมัครเรียบร้อย ขั้นต่อไปคือการนำเงินเข้ากระดาน ซึ่งมักจะทำได้ง่ายมาก เช่น:

  • โอนเงินผ่าน Mobile Banking
  • ใช้พร้อมเพย์ (PromptPay)
  • บางแพลตฟอร์มอาจรองรับ QR Code Transfer

เงินจะเข้าไปในกระดานเทรดภายในไม่กี่นาที พร้อมสำหรับซื้อคริปโต

4. วิธีเทรดคริปโตในไทย: การซื้อ–ขาย

การซื้อ–ขายคริปโตมีหลายรูปแบบ แต่หลัก ๆ มี 3 วิธีที่มือใหม่ควรรู้:

  • Market Order → ซื้อหรือขายทันทีตามราคาตลาด
  • Limit Order → ตั้งราคาที่ต้องการซื้อ/ขาย รอจนกว่าราคาจะถึง
  • Stop-Loss / Stop-Limit → ตั้งเงื่อนไขขายอัตโนมัติ หากราคาตกถึงจุดที่กำหนด (เพื่อป้องกันขาดทุนหนัก)

 ตัวอย่าง:

  • Bitcoin ราคา 1,000,000 บาท
  • คุณซื้อ 0.01 BTC (10,000 บาท)
  • ถ้าราคาขึ้นไป 1,100,000 บาท → มูลค่า 0.01 BTC = 11,000 บาท (กำไร 1,000 บาท)
  • แต่ถ้าราคาลงเหลือ 900,000 บาท → มูลค่า 0.01 BTC = 9,000 บาท (ขาดทุน 1,000 บาท)

5. เก็บเหรียญไว้ที่ไหน?

หลังจากซื้อแล้ว คำถามคือ จะเก็บเหรียญไว้ที่ไหนถึงจะปลอดภัย

  • Hot Wallet (กระเป๋าร้อน) → กระเป๋าที่อยู่ในแอปหรือเว็บเทรด ใช้ง่าย แต่เสี่ยงถ้าเว็บโดนแฮ็ก
  • Cold Wallet (ฮาร์ดแวร์วอลเล็ท) → เช่น Ledger, Trezor ปลอดภัยสูงเพราะเก็บออฟไลน์ แต่ต้องลงทุนซื้อเพิ่ม
  • DeFi Wallet → กระเป๋าแบบกระจายศูนย์ เช่น MetaMask ที่ให้คุณคุม Private Key เอง

6. ภาษีคริปโตในไทย

สิ่งสำคัญที่นักลงทุนคริปโตต้องรู้คือ ภาษี

  • กำไรจากการขายคริปโต ถือเป็น เงินได้บุคคลธรรมดา ต้องยื่นภาษี
  • กระดานไทยบางแห่งอาจมี หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ในบางธุรกรรม
  • ควรเก็บหลักฐานการซื้อ–ขายไว้ เผื่อยื่นแบบแสดงรายได้ประจำปี

7. ข้อดีและข้อเสียของการเทรดคริปโตในไทย

 ข้อด

  1. เข้าถึงง่าย → สมัครผ่านมือถือ ใช้พร้อมเพย์โอนเงินได้เลย
  2. ศักยภาพกำไรสูง → ราคาคริปโตผันผวน บางครั้งขึ้นลงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ในวันเดียว
  3. ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง → เทรดได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่มีวันหยุด
  4. ความโปร่งใส → ทุกธุรกรรมบันทึกบนบล็อกเชน ตรวจสอบได้
  5. สินทรัพย์ใหม่สำหรับการลงทุน → กระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากหุ้นและทอง

 ข้อเสีย

  1. ความเสี่ยงสูง → ราคาคริปโตผันผวนมาก ขาดทุนได้เร็ว
  2. ขาดการรับประกัน → ไม่มีใครมาค้ำประกันมูลค่าเหมือนเงินฝากธนาคาร
  3. อาจถูกหลอกหรือเจอเว็บปลอม → ถ้าไม่ใช้กระดานที่ถูกกฎหมาย
  4. เรื่องภาษีซับซ้อน → ต้องจัดการเอง บางครั้งทำให้ยุ่งยาก
  5. ต้องใช้เวลาเรียนรู้ → เทรดโดยไม่ศึกษา อาจเสียหายหนัก

คุณอาจจะสนใจอ่านโพสต์เหล่านี้เพิ่มเติม:

ราคาเหรียญใหม่มาแรง: โอกาส ความเสี่ยง และสิ่งที่นักลงทุนควรรู้

ราคาเหรียญดิจิทัลไทย: เจาะลึกทุกเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนลงทุน

ราคาเหรียญคริปโตโลก: เข้าใจให้ลึกก่อนตัดสินใจลงทุน

ราคาเหรียญเสมือนจริง คู่มือฉบับละเอียดสำหรับคนอยากเข้าใจตลาดคริปโต

8. เทคนิคสำหรับมือใหม่

เทคนิคสำหรับมือใหม่
  • เริ่มลงทุนด้วย เงินเย็น ที่ไม่กระทบชีวิตประจำวัน
  • กระจายการลงทุน อย่าเทหมดหน้าตักกับเหรียญเดียว
  • หัดใช้ Stop-Loss เพื่อลดความเสี่ยง
  • ศึกษาข่าวสารเศรษฐกิจโลก เพราะมีผลต่อราคาคริปโต
  • อย่าหลงเชื่อ “เหรียญปั่น” ที่ชวนเชื่อว่า “จะรวยเร็ว”

สรุป

การเรียนรู้ วิธีเทรดคริปโตในไทย ไม่ได้ยากเกินไป หากคุณทำตามขั้นตอน:

  1. เลือกกระดานที่ถูกกฎหมาย
  2. ฝากเงินเข้าระบบ
  3. ซื้อ–ขายคริปโตด้วยวิธีที่เหมาะสม
  4. เก็บรักษาเหรียญอย่างปลอดภัย
  5. จัดการภาษีให้ถูกต้อง

คริปโตคือโอกาส แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงสูง การลงทุนที่ดีต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และวินัยในการจัดการเงินเสมอ

 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีเทรดคริปโตในไทย

1. ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเทรดคริปโตได้?

คุณสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักร้อยบาท เพราะบางกระดานในไทยให้ซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาท เช่น Bitkub หรือ Satang Pro ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่

2. เทรดคริปโตในไทยปลอดภัยไหม?

ถ้าใช้กระดานที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ก็ถือว่าปลอดภัยระดับหนึ่ง แต่ยังมีความเสี่ยงเรื่องการแฮ็กหรือระบบล่ม ดังนั้นควรเก็บเหรียญส่วนใหญ่ไว้ใน Cold Wallet หากถือระยะยาว

3. วิธีเทรดคริปโตในไทยต่างจากต่างประเทศไหม?

โดยหลักการเหมือนกัน คือฝากเงิน → ซื้อคริปโต → ขายเมื่อมีกำไร แต่ในไทยจะสะดวกกว่าตรงที่สามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารไทยได้โดยตรง และอยู่ภายใต้กฎหมายไทย

4. สามารถถอนเงินจากการขายคริปโตเข้าบัญชีธนาคารไทยได้ไหม?

ได้ เมื่อคุณขายคริปโตออกมาเป็นเงินบาท สามารถกดถอนเข้าบัญชีธนาคารได้ทันที โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง

5. การเทรดคริปโตต้องเสียภาษีไหม?

ใช่ กำไรจากการเทรดคริปโตถือเป็นเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเสียภาษีเงินได้ และบางครั้งอาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% จากธุรกรรมบางประเภท

About the author

admin

Leave a Comment